ตำรวจเตือนภัยออนไลน์!”ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” นักสนุกเกอร์ชื่อดัง อดีตแชมป์ระดับโลก แชร์ประสบการณ์เตือนภัย

ตำรวจเตือนภัยออนไลน์! “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” นักสนุกเกอร์ชื่อดัง อดีตแชมป์ระดับโลก แชร์ประสบการณ์เตือนภัย เจอแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้กลอุบายอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ หลอกให้โอนเงิน กว่า 3.2 ล้านบาท

พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. และ พ.ต.อ.ก้องกฤษฎา กิตติถิระพงษ์ รองผู้บังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี บช.สอท. กล่าวถึงรายละเอียดภัยออนไลน์ในรูปแบบแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์ข่มขู่นายวัฒนา ภู่โอบอ้อม หรือ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและฟอกเงิน โดยมิจฉาชีพคนที่ 1 แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย โทรศัพท์หานายวัฒนาฯ แจ้งว่าค้างชำระบัตรเครดิตธนาคารกรุงไทย หากไม่ได้ใช้บัตรเครดิต แสดงว่ามีบุคคลอื่นนำบัตรเครดิตไปใช้ และแนะนำให้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ และต่อสายโทรศัพท์ให้คุยกับมิจฉาชีพคนที่ 2 ซึ่งอ้างตนเป็น พ.ต.อ.เสฎฐวุฒิ รอดจันทร์ เนื่องจากเห็นว่าไม่สะดวกเดินทางไปแจ้งความระหว่างนั้น มิจฉาชีพคนที่ 3 ใช้บัญชีไลน์ ชื่อ “สภ.เมืองนครสวรรค์” ส่งบัตรประจำตัว พ.ต.อ.เสฎฐวุฒิ รอดจันทร์ มาให้ดูและแจ้งด้วยว่า นายวัฒนาฯ เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดและฟอกเงินพร้อมส่งบัญชีธนาคารของนายวัฒนาฯ มาให้ตรวจสอบและแจ้งว่าได้ขายสมุดบัญชีธนาคารที่ไม่ได้ใช้แล้วให้บุคคลอื่นในราคา 50,000 บาท และมีเงินจำนวน 850,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากการขายยาเสพติดโอนเข้ามาในสมุดบัญชี หากต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ต้องโอนเงินมาตรวจสอบเส้นทางการเงิน หากตรวจสอบแล้วไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดใดๆ จะโอนเงินคืน นายวัฒนาฯ หลงเชื่อจึงโอนเงินจากบัญชีธนาคาร 5 บัญชี จำนวน 10 ครั้ง เข้าบัญชี น.ส.สุดารัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) และ น.ส.ชนกานต์ (ขอสงวนนามสกุล) รวมเป็นเงิน 3,202,380.7 บาท ให้มิจฉาชีพไป
จุดสังเกต
1.โทรศัพท์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สถาบันการเงินต่างๆ แล้วเริ่มบทสนทนาพูดคุยโน้มน้าวให้หลงเชื่อ
2.อ้างสถานที่เกิดเหตุไกลจากบ้านหรือที่อยู่ผู้เสียหาย เพื่อให้ผู้เสียหายไม่อยากเดินทางไปสถานีตำรวจ และต้องการความสะดวกในการติดต่อทางโทรศัพท์ไลน์ หรือทางอื่น
3.แอบอ้างเจ้าหน้าที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นๆ ส่งบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ หรือหนังสือของทางราชการ ข่มขู่เพื่อให้เกิดความกลัว แล้วให้โอนเงินให้คนร้ายตรวจสอบ
4.มิจฉาชีพใช้บัญชีไลน์ส่วนบุคคล แต่ส่วนราชการหรือหน่วยงานรัฐใช้บัญชีทางการ (LineOfficial)
5.บัญชีรับโอนเงินของมิจฉาชีพเป็นบัญชีส่วนบุคคล แต่บัญชีส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือเอกชน เป็นบัญชีหน่วยงานหรือองค์กร
วิธีป้องกัน
1)ให้ติดต่อ call center ของธนาคารเพื่อสอบถามข้อมูลโดยตรง เพราะธนาคารไม่มีนโยบายในการโทรศัพท์แจ้งให้ประชาชนโอนเงินไปตรวจสอบ หรือโหลดแอพพลิเคชั่น
2)กรณีอ้างหน่วยงานของรัฐที่เป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ให้โทรศัพท์สอบถามข้อมูลจากหน่วยงานนั้นๆ โดยตรง
3)ให้นัดหมายไปพบเจ้าหน้าที่เพื่อแจ้งความ สอบสวนปากคำ ชี้แจง หรือยื่นพยานเอกสาร
พยานวัตถุ ณ สถานที่เกิดเหตุหรือสถานที่ราชการด้วยตนเอง
4)ถ้ามีการสนทนาทาง Video call ให้มีสติและสังเกตปากกับเสียงตรงกันหรือไม่ หรือ ภาพและท่าทางมีความผิดปกติหรือไม่(คนร้ายสามารถใช้โปรแกรมปลอมใบหน้าขณะสนทนาได้)


พล.ต.ต.สุระพรรณ นาทวรทัต ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยว่าได้รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม และข้อมูลทางการสืบสวนเส้นทางการเงินของผู้ต้องหา จากกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ จนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหา บัญชีม้าแถวแรกได้แล้ว และออกหมายเรียกผู้ต้องหาเพิ่มเติม พร้อมทั้งอายัดเงินในบัญชีม้าแถวที่ 2 – 4 รวมทั้งหมดจำนวน 11 ราย โดยนัดหมายให้มารายงานตัว ในวันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม 2566 เวลา 10.00 น. และสอบปากคำ พ.ต.อ.เสฏฐวุฒิ รอดจันทร์ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ซึ่งถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์นำไปกล่าวอ้างในการหลอกลวงต๋อง ศิษย์ฉ่อย โดยยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ติดต่อโทรศัพท์พูดคุยกับผู้เสียหายแต่อย่างใด

#วัคซีนไซเบอร์
#เตือนภัยออนไลน์
#สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
#Royalthaipolice